“กฎแห่งความมั่งคั่ง” นั้นได้บอกไว้อย่างชัดเจนว่า คุณสามารถเสกชีวิต เงินทอง และทุกสิ่งที่คุณปรารถนาได้ มันเป็นทักษะที่สำคัญที่คุณควรจะได้เรียนรู้ที่จะใช้มัน เริ่มต้นนั้นขอให้คุณได้ทำความเข้าใจกับกฎแห่งความมั่งคั่งกันเสียก่อน โดยกฎแห่งความมั่งคั่งประกอบด้วย 2 สาย ดังนี้

.

.

1. The Spiritual Law of Abundance คือ กฎจิตวิญญาณแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์ ความเหลือเฟือ จุดเด่นหรือข้อดีของกฎนี้ คือ มันมีความยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง เพียงแค่กฎข้อนี้ข้อเดียวก็สามารถรับประกันได้เลยว่า คุณสามารถที่จะมีเงินในจำนวนที่คุณปรารถนาจะครอบครองมัน รวมทั้งคุณสามารถได้ในสิ่งที่คุณปรารถนาด้วยการใช้กฎจิตวิญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์นี้

.

.

2. Man Made Law of Abundance คือ กฎที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย กฎนี้จะว่าด้วยองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การทำธุรกิจ การตลาด การบริหารการเงิน การตั้งเป้าหมาย การวางแผน การใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งกฎที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวยนี้เป็นสิ่งที่หากคุณรู้ไว้ย่อมดีกว่าไม่รู้ แต่แท้จริงแล้วกฎที่มีความแน่นอนว่าหากได้ใช้มันคุณจะสามารถสำเร็จ สัมฤทธิ์ผลได้แน่นอนมันคือ The Spiritual Law of Abundance ในข้อ 1 ที่เป็นกฎแห่งความมั่งคั่งที่สร้างขึ้นจากจิตวิญญาณนั่นเอง

.

.

หากคุณมีความปรารถนาอยากจะใช้ชีวิตอย่างความสุข มีความรู้สึกที่ได้รับการเติมเต็มในจิตใจ มีความสนุกสนาน ตลอดจนมีความรื่นรมย์ในชีวิต หรือเป็นคนที่มีความรักในตนเอง มีจิตใจที่มีความเมตตากรุณากับผู้อื่น ซึ่งความคิดในอุดมคติของมนุษย์ย่อมต้องการที่จะให้โลกใบนี้มีแต่ความสวยงาม น่าอยู่ดั่งสวรรค์วิมาน กล่าวคือทุกคนมีความสุขและประสบความสำเร็จกันทั้งหมด มีแต่คนรวยและปราศจากคนยากจน

.

.

จะเกิดอะไรขึ้นหากคนทุกคนบนโลกนี้ได้รู้จักและได้ใช้กฎจิตวิญญาณแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย เมื่อทุกคนกลายเป็นคนรวยกันทั้งหมด และไม่มีใครที่เป็นคนที่ขาดแคลนหรือยากจนอีกเลย รวมทั้งตัวคุณสามารถที่จะกลายเป็นคนที่มีความมั่งคั่งทางการเงินได้ด้วยการใช้กฎจิตวิญญาณแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยนี้ ในขณะเดียวกันหากมนุษย์เลือกที่จะใช้กฎที่ 2 หรือกฎที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวยนั้น ต้องยอมรับว่ามันอาจตอบสนองหรือเติมเต็มความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับคนบางคน แต่ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน

.

.

เมื่อมนุษย์ได้เติบโตขึ้นมา สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะต้องมีก็คือ “ทักษะ” เป็นต้นว่าเมื่อครั้งที่คุณเป็นเด็กคุณย่อมได้รับการปลูกฝังภาษาที่พ่อแม่ของคุณใช้ ดังนั้นคุณจึงมีทักษะในการพูดภาษาไทยได้ก่อนที่คุณจะได้รับการศึกษาในโรงเรียน นั่นหมายความว่าคุณได้รับการฝึกฝนตนเองทั้งในจิตใจจนกระทั่งคุณมีทักษะการพูดได้สำเร็จ จะเห็นได้ว่าเด็กทุกคนย่อมมีทักษะที่สามารถฝึกฝนการพูดได้ และไม่มีเด็กคนไหนที่จะยากไร้กับการพูดไม่เป็น เว้นเสียแต่ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นใบ้โดยกำเนิด

.

.

อีกหนึ่งตัวอย่างที่อยากจะให้คุณได้เห็นภาพชัดเจน นั่นคือเด็กแต่ละคนย่อมผ่านการฝึกฝนตนเองที่จะเดินได้ ด้วยการเริ่มจากการคลาน การเกาะยืน การเดินเตาะแตะ จนกระทั่งสามารถวิ่งได้ในที่สุด และทักษะนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วมันยังติดตัวพวกเขามาจนกระทั่งแก่เฒ่าอีกด้วย

.

.

อย่างไรก็ตามมีทักษะหนึ่งที่สำคัญกับชีวิต แต่เมื่อยามเป็นเด็กคุณอาจจะยังไม่ได้รับการปลูกฝังทักษะนี้จากพ่อแม่ของคุณ ทักษะที่ว่านั้นคือ “#Manifesting Skills” หรือ “ทักษะการเสกสิ่งที่ปรารถนาให้กลายเป็นความจริง” นั่นเอง มันเป็นทักษะแห่งการเนรมิตสิ่งที่ต้องการภายในจิตใจของเราแล้วทำให้มันกลายเป็นจริงขึ้นมาได้

.

.

แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้รับการปลูกฝังหรือเรียนรู้ในทักษะการเสกมาก่อน แต่คุณสามารถหันกลับมาเรียนรู้ในทักษะการเสกสิ่งที่ปรารถนาให้กลายเป็นความจริงได้ โดยสามารถศึกษากฎจิตวิญญาณแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยไปด้วยพร้อม ๆ กับการฝึกฝนทักษะการเสกให้เกิดความชำนิชำนาญขึ้นมา เมื่อคุณเรียนรู้และฝึกฝนมัน คุณจะเริ่มเสกสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ต่างอะไรกับการที่เด็กคนหนึ่งเริ่มหัดที่จะพูดหรือหัดเดินนั่นเอง

.

.

ที่ผ่านมาคุณอาจจะได้รับการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะอื่น ๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ ทักษะการคิดเลข ทักษะการทำอาหาร หรือแม้แต่ทักษะการผูกเชือกรองเท้า จะเห็นว่าคนเราได้เรียนรู้ทักษะมามากมายแต่กลับขาดการเรียนรู้ในทักษะเดียวที่เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญในชีวิต นั่นคือ ทักษะการเสกไม่ว่าจะเป็นการเสกเงิน เสกสิ่งที่ปรารถนา หรือเสกความมั่งคั่งร่ำรวยก็ตาม

.

.

ทักษะการเสกนี้หากคุณได้รับการเรียนรู้และฝึกฝนจนกลายเป็นธรรมชาติของจิตที่จะสามารถเสกสิ่งต่าง ๆ และบันดาลสิ่งที่คุณต้องการได้ ถ้าทุกคนได้รับการเรียนรู้ในทักษะนี้ โลกใบนี้คงไม่มีผู้ที่ยากจนอีกต่อไป ซึ่งจริง ๆ แล้วคนที่ยากจนจำนวนมากนั้นล้วนมีศักยภาพของจิตที่สามารถเสกความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับชีวิตได้อย่างไม่มีข้อยกเว้น

.

.

คุณสามารถที่จะกลายเป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งทางการเงินได้ โดยผ่านอาศัยกระบวนการทางความคิดของคุณซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเสก บวกกับความรู้สึกของตัวคุณที่จะต้องชัดเจนกับสิ่งที่ปรารถนาอย่างแท้จริง ขอให้คุณตั้งคำถามกับตัวเองว่า จริง ๆ แล้วคุณต้องการเงินในจำนวนเท่าไรกันแน่ และพูดกับตนเองซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วัน เช่น “#ฉันได้รับเงินจำนวน...บาท” หรือ “#ฉันถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1” โดยคุณจะต้องสร้างความรู้สึกที่มีความสุขกับเงินในจำนวนที่คุณจะได้รับนั้น เสมือนว่าได้รับมันมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และส่งกระแสความคิดนั้นไปยังจักรวาล

.

.

ทั้งนี้การฝึกเพียงครั้งเดียวย่อมไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดเงิน แต่หากคุณฝึกฝนอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ วัน มันจะช่วยให้จิตใต้สำนึกของคุณพร้อมที่จะรับกับความมั่งคั่งร่ำรวย และความมั่งคั่งร่ำรวยนั้นก็จะสามารถเข้าสู่ในชีวิตคุณได้ในที่สุด